261เมื่อพระเยซูกล่าวถึงสิ่งเหล่านั้นจบแล้ว ก็กล่าวกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า
พระเยซู
2พวกเจ้ารู้แล้วว่าอีก 2 วันก็จะถึงเทศกาลปัสกา* บุตรมนุษย์จะถูกมอบตัวไปตรึงบนไม้กางเขน
3พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนเข้าร่วมประชุมกันในวังของหัวหน้ามหาปุโรหิตชื่อคายาฟาส 4เขาเหล่านั้นวางแผนกันเพื่อจับกุมและฆ่าพระเยซูอย่างลับๆ 5พวกเขาพูดว่า
กลุ่มผู้นำชาวยิว
ต้องไม่ทำในระหว่างเทศกาล มิฉะนั้นจะเกิดการจลาจลในหมู่ผู้คน
6ขณะที่พระเยซูอยู่ที่บ้านของซีโมนชายโรคเรื้อนในหมู่บ้านเบธานี 7มีหญิงคนหนึ่งเอาผอบหินซึ่งบรรจุด้วยน้ำมันหอมราคาแพงมากมาหาพระองค์ และชโลมบนศีรษะของพระองค์ขณะที่พระองค์เอนกายลงรับประทาน 8แต่พวกสาวกเห็นเข้าก็โกรธและพูดว่า
บรรดาสาวกของพระเยซู
ทำไมจึงทำให้เสียของเปล่าๆ เช่นนี้ 9เพราะว่าน้ำหอมนี้อาจจะขายได้ราคาสูง และเอาเงินไปแจกแก่ผู้ยากไร้ได้
10พระเยซูตระหนักดีถึงสิ่งนั้น จึงกล่าวกับพวกเขาว่า
พระเยซู
ทำไมเจ้าจึงยุ่งกับหญิงคนนี้ นางได้ทำสิ่งดีให้เรา 11พวกเจ้ามีผู้ยากไร้อยู่ด้วยเสมอ แต่เราจะไม่ได้อยู่กับพวกเจ้าตลอดไป 12การที่นางเทน้ำมันหอมบนกายของเรา เท่ากับนางได้เตรียมพิธีฝังศพของเรา 13เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า ไม่ว่าข่าวประเสริฐนี้จะถูกประกาศไปที่ใดในโลกก็ตาม สิ่งที่นางได้ทำจะเป็นที่กล่าวขวัญถึง เพื่อเป็นการระลึกถึงนาง
14คนหนึ่งในสาวกทั้งสิบสองชื่อยูดาสอิสคาริโอทไปหาพวกมหาปุโรหิต 15และพูดว่า
ยูดาสอิสคาริโอท
ถ้าข้าพเจ้ามอบพระองค์ให้ท่านจับกุมตัว ท่านจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้า
แล้วพวกเขาก็นับเหรียญเงินให้ 30 เหรียญ 16หลังจากนั้น เขาก็รอโอกาสที่จะทรยศพระองค์
17ในวันแรกของเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ พวกสาวกมาหาพระเยซูแล้วพูดว่า
บรรดาสาวกของพระเยซู
พระองค์ประสงค์จะให้พวกเราเตรียมปัสกาเพื่อพระองค์รับประทานที่ไหน
18พระเยซูกล่าวว่า
พระเยซู
จงเข้าไปในเมือง ไปหาชายคนหนึ่งและพูดกับเขาว่า ‘อาจารย์กล่าวว่า “ถึงกำหนดเวลาของเราแล้ว เราต้องฉลองปัสกากับสาวกของเราที่บ้านของท่าน”’
19เหล่าสาวกกระทำตามที่พระเยซูได้สั่งพวกเขาไว้ แล้วก็เตรียมปัสกากัน
20ครั้นเย็นลง พระองค์เอนกายลงรับประทานกับเหล่าสาวกทั้งสิบสอง 21ขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอยู่ พระองค์กล่าวว่า
พระเยซู
เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า คนหนึ่งในพวกเจ้าจะทรยศเรา
22เหล่าสาวกเศร้าใจยิ่งนัก ต่างก็พูดว่า
บรรดาสาวกของพระเยซู
พระองค์ท่าน เป็นข้าพเจ้าหรือเปล่า
23พระองค์กล่าวตอบว่า
พระเยซู
คนที่ใช้มือจิ้มร่วมกับเราในถ้วยนี้เป็นคนที่จะทรยศเรา 24บุตรมนุษย์ต้องไป ตามที่มีบันทึกไว้เกี่ยวกับท่าน แต่วิบัติจะเกิดกับคนที่ทรยศบุตรมนุษย์ ถ้าคนนั้นไม่ได้มาเกิดก็จะดีกว่า
25ยูดาสคนที่กำลังทรยศพระองค์ถามว่า
ยูดาสอิสคาริโอท
รับบี เป็นข้าพเจ้าหรือเปล่า
พระองค์กล่าวว่า
พระเยซู
เจ้าได้พูดขึ้นเอง
26ขณะที่เขาเหล่านั้นกำลังรับประทานกันอยู่ พระเยซูหยิบขนมปังและกล่าวขอบคุณพระเจ้า แล้วก็บิเป็นชิ้น ยื่นให้แก่เหล่าสาวก พลางกล่าวว่า
พระเยซู
เอาไปรับประทานเถิด นี่เป็นกายของเรา
27เมื่อพระองค์ได้หยิบถ้วยและกล่าวขอบคุณพระเจ้าแล้ว พระองค์จึงยื่นให้แก่พวกเขาและกล่าวว่า
พระเยซู
ทุกคนจงดื่มจากถ้วยนี้ 28เพราะนี่เป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาของเราซึ่งหลั่งออกให้แก่คนจำนวนมาก เพื่อเป็นการยกโทษบาป 29เราขอบอกเจ้าว่า เราจะไม่ดื่มน้ำจากผลของเถาองุ่นอีก จนจะถึงวันนั้น คือวันที่เราจะดื่มกันใหม่กับพวกเจ้าในอาณาจักรของพระบิดาของเรา
30หลังจากที่ได้ร้องเพลงสรรเสริญกันแล้วก็พากันออกไปยังภูเขามะกอก
31พระเยซูกล่าวกับพวกเขาว่า
พระเยซู
พวกเจ้าทุกคนจะละทิ้งเราในคืนนี้ เพราะมีบันทึกไว้ว่า ‘เราจะฟาดฟันผู้เลี้ยงดูฝูงแกะ และบรรดาแกะในฝูงจะกระจัดกระจายไป’*
32แต่หลังจากที่เราได้ฟื้นคืนชีวิตแล้ว เราจะไปล่วงหน้าพวกเจ้ายังแคว้นกาลิลี
33แต่เปโตรพูดตอบพระองค์ว่า
ซีโมนเปโตร
แม้คนทั้งปวงจะละทิ้งพระองค์ ข้าพเจ้าไม่มีวันทิ้งพระองค์แน่นอน
34พระเยซูกล่าวกับเขาว่า
พระเยซู
เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า ในคืนวันนี้เอง ก่อนไก่จะขัน เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา
35เปโตรพูดกับพระเยซูว่า
ซีโมนเปโตร
ถึงแม้ข้าพเจ้าจะต้องตายไปด้วยกับพระองค์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ปฏิเสธพระองค์
สาวกต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างนั้นทุกคน
36แล้วพระเยซูกับพวกสาวกมายังที่แห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่าเกทเสมนี พระองค์กล่าวกับเหล่าสาวกว่า
พระเยซู
จงนั่งลงที่นี่ขณะที่เราไปอธิษฐานที่โน่น
37พระองค์พาเปโตรและบุตรชายทั้งสองของเศเบดีไปด้วย พระองค์เริ่มเศร้าใจและหนักใจ 38พระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า
พระเยซู
จิตใจของเราเป็นทุกข์เจียนตาย จงอยู่ตรงนี้ เฝ้าคอยอยู่กับเราเถิด
39พระองค์เดินเลยพวกเขาไปเล็กน้อยแล้วซบหน้าลงที่พื้นดินอธิษฐานว่า
พระเยซู
พระบิดาของข้าพเจ้า ถ้าเป็นไปได้ ขอโปรดให้ถ้วยนี้ผ่านพ้นไปจากข้าพเจ้า ถึงกระนั้น ขออย่าให้เป็นไปตามความประสงค์ของข้าพเจ้า แต่ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด
40พระเยซูเดินมาหาเหล่าสาวกและพบว่าพวกเขากำลังนอนหลับกัน พระองค์กล่าวกับเปโตรว่า
พระเยซู
พวกเจ้าไม่สามารถคอยเฝ้าอยู่กับเราสักชั่วโมงเดียวหรือ 41จงคอยเฝ้าและอธิษฐานเถิดว่าพวกเจ้าจะไม่ตกอยู่ในสิ่งยั่วยุ ฝ่ายวิญญาณมีความตั้งใจดี แต่ฝ่ายเนื้อหนังกลับอ่อนแอ*
42พระองค์เดินจากไปอีกเป็นครั้งที่สอง และอธิษฐานว่า
พระเยซู
พระบิดาของข้าพเจ้า หากถ้วยนี้ผ่านข้าพเจ้าไปไม่ได้ นอกจากว่าข้าพเจ้าจะต้องดื่มก่อน ก็ขอให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระองค์เถิด
43แล้วพระเยซูกลับมาอีกก็พบว่าพวกเขานอนหลับกัน เพราะง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น 44พระองค์เดินจากพวกเขาไปอีกและอธิษฐานเป็นครั้งที่สาม โดยกล่าวเช่นเดิมอีก 45พระองค์มาหาเหล่าสาวกและกล่าวกับพวกเขาว่า
พระเยซู
พวกเจ้ายังนอนหลับและพักผ่อนอยู่หรือ ดูเถิด ใกล้เวลาแล้ว และบุตรมนุษย์กำลังถูกทรยศส่งมอบให้อยู่ในมือของพวกคนบาป 46จงลุกขึ้น ไปกันเถิด ดูสิ คนทรยศเราเข้ามาใกล้แล้ว
47พระองค์ยังกล่าวไม่ทันขาดคำ ยูดาสหนึ่งในสาวกทั้งสิบสองก็เดินมา พร้อมกับคนกลุ่มใหญ่จากบรรดามหาปุโรหิตและผู้ใหญ่ของประชาชน ต่างถือดาบและไม้ตะบองมาด้วย 48ผู้ทรยศนั้นได้ให้สัญญาณแก่พวกเขาโดยกล่าวว่า
ยูดาสอิสคาริโอท
เป็นคนที่เราจะจูบแก้มนั่นแหละ* จงจับกุมเขาได้เลย
49เขาไปหาพระเยซูทันทีและพูดว่า
ยูดาสอิสคาริโอท
สวัสดี รับบี
แล้วก็จูบแก้มพระองค์ 50พระเยซูกล่าวกับเขาว่า
พระเยซู
เพื่อนเอ๋ย มาเพื่ออะไรก็ทำไปเถิด
ครั้นแล้วพวกเขาก็เข้ามาจับกุมพระเยซู 51ในทันใดนั้น คนหนึ่งในบรรดาผู้ที่อยู่กับพระเยซูชักดาบออกฟันหูผู้รับใช้ของหัวหน้ามหาปุโรหิตขาด 52พระเยซูกล่าวกับเขาว่า
พระเยซู
เก็บดาบเสีย เพราะทุกคนที่ใช้ดาบจะตายเพราะดาบ 53เจ้าคิดหรือว่าเราจะร้องขอพระบิดาของเราให้ช่วยไม่ได้ พระองค์จะส่งทูตสวรรค์มาเป็นจำนวนมากกว่า 12 เลเกโอน*ให้เราได้ทันที 54ถ้าเช่นนั้นแล้วจะเป็นไปตามพระคัมภีร์ได้อย่างไร เรื่องจะต้องเป็นไปเช่นนี้
55ในเวลานั้น พระเยซูกล่าวกับฝูงชนว่า
พระเยซู
พวกท่านเอาดาบและไม้ตะบองพากันมาจับกุมเรา เหมือนกับว่าเราเป็นโจรอย่างนั้นหรือ ทุกวันเราเคยนั่งสั่งสอนในบริเวณพระวิหาร แต่ท่านก็ไม่ได้จับกุมเรา 56สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นก็เพื่อเป็นไปตามพระคัมภีร์ในหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
เหล่าสาวกก็ละทิ้งพระองค์ไว้และพากันหนีไป
57แล้วพวกที่จับกุมพระเยซูก็พาพระองค์ไปหาคายาฟาสหัวหน้ามหาปุโรหิต ณ ที่ซึ่งพวกอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติและพวกผู้ใหญ่ประชุมร่วมกัน 58แต่เปโตรก็ได้ติดตามพระองค์ไปอยู่ห่างๆ เขาเข้าใกล้ที่สุดได้ถึงในบริเวณลานบ้านของหัวหน้ามหาปุโรหิต แล้วนั่งลงกับพวกเจ้าหน้าที่เพื่อดูว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร 59ฝ่ายพวกมหาปุโรหิตและสมาชิกทั้งหมดในศาสนสภาพยายามหาพยานเท็จปรักปรำพระเยซูเพื่อจะทำให้พระองค์ได้รับโทษถึงตาย 60แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้ แม้ว่าพยานเท็จจำนวนมากมาให้การ แต่ในที่สุดมี 2 คนมาให้การว่า
บางคนที่ยืนเป็นพยานเท็จ
61ชายคนนี้กล่าวว่า ‘เราสามารถทำลายพระวิหารของพระเจ้าได้และสร้างขึ้นใหม่ใน 3 วัน’
62หัวหน้ามหาปุโรหิตยืนขึ้นและพูดกับพระองค์ว่า
คายาฟาสหัวหน้ามหาปุโรหิต
ท่านไม่ตอบอะไรหรือ ท่านจะว่าอย่างไรกับคำให้การที่กล่าวหาท่านมานี้
63แต่พระเยซูนิ่งเงียบ ส่วนหัวหน้ามหาปุโรหิตพูดกับพระองค์ว่า
คายาฟาสหัวหน้ามหาปุโรหิต
เราให้ท่านสาบานต่อหน้าพระเจ้าผู้ดำรงอยู่ ให้ท่านบอกเราว่า ท่านเป็นพระคริสต์บุตรของพระเจ้าหรือไม่
64พระเยซูกล่าวกับเขาว่า
พระเยซู
ท่านเป็นคนพูดเช่นนั้นเอง แต่เราขอบอกท่านว่า หลังจากนี้พวกท่านจะเห็นบุตรมนุษย์นั่งอยู่ทางขวามือขององค์ผู้มีอานุภาพมาพร้อมเมฆแห่งสวรรค์
65ครั้นแล้วหัวหน้ามหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อตัวนอกของตนเองจนขาด และกล่าวว่า
คายาฟาสหัวหน้ามหาปุโรหิต
เขาได้พูดจาหมิ่นประมาท พวกเราจำต้องมีพยานอะไรมากกว่านี้ ดูสิ พวกท่านก็ได้ยินคำพูดหมิ่นประมาทแล้ว 66พวกท่านเห็นว่าอย่างไร
พวกเขาตอบว่า
กลุ่มผู้นำชาวยิว
เขาสมควรตาย
67แล้วพวกเขาถ่มน้ำลายใส่หน้าพระองค์ และชกพระองค์ด้วยกำปั้น บ้างก็ตบพระองค์ 68และพูดว่า
กลุ่มผู้นำชาวยิว
ท่านผู้เป็นพระคริสต์ จงพยากรณ์ซิว่าใครเป็นคนตบตีท่าน
69ขณะนั้นเปโตรกำลังนั่งอยู่ข้างนอกที่ลานบ้าน และผู้รับใช้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เขาและพูดว่า
ทาสรับใช้หญิง
ท่านก็ด้วย ท่านอยู่กับเยซูชาวกาลิลี
70แต่เขาปฏิเสธต่อหน้าทุกคนโดยพูดว่า
ซีโมนเปโตร
เราไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงอะไร
71เมื่อเขาออกไปทางประตู ผู้รับใช้หญิงอีกคนเห็นเปโตรจึงพูดกับพวกที่ยืนอยู่ว่า
คนที่อยู่ที่การทดลอง
ชายคนนี้อยู่กับเยซูแห่งเมืองนาซาเร็ธ
72เขาสาบานไม่ยอมรับอีกว่า
ซีโมนเปโตร
เราไม่รู้จักชายผู้นั้น
73อีกชั่วครู่ต่อมา พวกที่ยืนอยู่มาหาเปโตรและพูดว่า
คนที่อยู่ที่การทดลอง
แน่แล้ว ท่านด้วยที่เป็นพวกเดียวกันกับเขา ก็สำเนียงของท่านส่อให้รู้นี่นา
74แล้วเปโตรก็เริ่มสบถสาบานว่า
ซีโมนเปโตร
เราไม่รู้จักชายคนนั้น
ในทันใดนั้น ไก่ก็ขัน 75แล้วเปโตรนึกถึงคำซึ่งพระเยซูได้กล่าวไว้ว่า
พระเยซู
ก่อนไก่จะขัน เจ้าจะปฏิเสธ 3 ครั้งว่าเจ้าไม่รู้จักเรา
เขาจึงออกไปข้างนอกแล้วร้องไห้ด้วยความปวดร้าวใจยิ่งนัก
271เมื่อถึงเวลาฟ้าสางพวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ของประชาชนได้ร่วมคบคิดกันเพื่อจะทำให้พระเยซูได้รับโทษถึงตาย 2พวกเขามัดตัวพระองค์และพาไปส่งมอบให้แก่ปีลาตผู้ว่าราชการ
3เมื่อยูดาสผู้ทรยศเห็นพระองค์ถูกกล่าวโทษ จึงเสียใจและคืนเหรียญเงินทั้ง 30 เหรียญแก่พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ 4เขาพูดว่า
ยูดาสอิสคาริโอท
เราได้กระทำบาปด้วยการทรยศคนที่ไม่มีความผิดจนถึงแก่ความตาย
แต่พวกเขาพูดว่า
กลุ่มผู้นำชาวยิว
แล้วเรื่องอะไรของเราเล่า มันเป็นธุระของท่าน
5ยูดาสก็โยนเหรียญเงินนั้นไว้ในพระวิหารแล้วจากไป และเขาก็ไปผูกคอตาย 6พวกมหาปุโรหิตเอาเงินเหรียญไปพลางกล่าวว่า
กลุ่มผู้นำชาวยิว
ไม่ถูกกฎบัญญัติที่จะเก็บเหรียญไว้ในคลังพระวิหาร ในเมื่อเป็นเงินเปื้อนเลือด
7พวกเขาปรึกษากันแล้วก็ซื้อที่นาของช่างหม้อไว้สำหรับฝังชาวต่างแดน 8ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงเรียกทุ่งนานั้นว่า ทุ่งโลหิต จนถึงทุกวันนี้ 9สิ่งเหล่านี้จึงเป็นไปตามที่พระเจ้ากล่าวผ่านเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าไว้ว่า “และพวกเขาได้เอาเงิน 30 เหรียญซึ่งเป็นราคาที่ตั้งให้ผู้นั้นโดยพวกชนชาติอิสราเอล 10และเขาเหล่านั้นใช้เงินจำนวนนั้นซื้อทุ่งนาของช่างหม้อ ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้สั่งข้าพเจ้าไว้*”
11ขณะนั้นพระเยซูยืนอยู่ต่อหน้าผู้ว่าราชการซึ่งถามพระองค์ว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ
พระเยซูกล่าวว่า
พระเยซู
เป็นตามที่ท่านพูด
12เมื่อพวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่กล่าวหาพระองค์อยู่นั้น พระองค์ไม่ได้ตอบกลับ 13แล้วปีลาตพูดกับพระองค์ว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
ท่านไม่ได้ยินหรือว่าพวกเขาอ้างคำยืนยันที่ต่อต้านท่านมากมาย
14และพระองค์ไม่ได้แก้ข้อกล่าวหาแม้แต่ข้อเดียว ฉะนั้นผู้ว่าราชการจึงประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
15ในงานเทศกาลนั้น ผู้ว่าราชการมักจะปลดปล่อยนักโทษ 1 คนตามที่ฝูงชนต้องการ 16ในเวลานั้นพวกเขากำลังกักตัวนักโทษร้ายกาจคนหนึ่ง ชื่อบารับบัส 17ฉะนั้นเมื่อพวกเขาประชุมกัน ปีลาตพูดว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
พวกท่านจะให้เราปลดปล่อยใคร บารับบัสหรือเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์
18เขารู้อยู่ว่า ชาวยิวได้มอบพระเยซูให้แก่เขาเนื่องจากความอิจฉา 19ขณะที่ปีลาตนั่งตัดสินความอยู่นั้น ภรรยาของเขาส่งคนมาเรียนว่า
ภรรยาของปีลาต
อย่าไปทำอะไรกับคนที่ไม่มีความผิดคนนั้นเลย เพราะว่าเมื่อคืนดิฉันฝันถึงเขา และก็ทำให้ดิฉันทรมานมาก
20แต่พวกมหาปุโรหิตและพวกผู้ใหญ่ชักจูงฝูงชนให้ขอปลดปล่อยบารับบัส และฆ่าพระเยซูเสีย 21ผู้ว่าราชการพูดว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
พวกท่านอยากให้เราปลดปล่อยคนใดใน 2 คนนี้
และพวกเขาตอบว่า
ฝูงชน
บารับบัส
22ปีลาตพูดว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
แล้วเราควรจะทำอย่างไรกับเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์
พวกเขาต่างตอบว่า
ฝูงชน
ให้ตรึงเขาบนไม้กางเขน
23ปีลาตถามว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
ทำไมเล่า เขาทำอะไรชั่วร้ายหรือ
แต่พวกเขาตะโกนมากยิ่งขึ้นว่า
ฝูงชน
ให้ตรึงเขาไว้บนไม้กางเขน
24เมื่อปีลาตเห็นว่าไม่มีประโยชน์อันใด และการจลาจลกำลังก่อตัว เขาจึงเอาน้ำล้างมือต่อหน้าฝูงชนพลางพูดว่า
ผู้ว่าราชการโรมันปีลาต
ข้าพเจ้าไม่รับผิดชอบกับความตายของชายผู้นี้ นี่เป็นเรื่องของพวกท่านเอง
25แล้วทุกคนตอบว่า
ฝูงชน
พวกเราและลูกหลานของเรารับผิดชอบการตายของเขาเอง
26ครั้นแล้วปีลาตจึงปลดปล่อยบารับบัสให้แก่พวกเขาไป หลังจากที่สั่งให้เฆี่ยนพระเยซูแล้ว ก็ให้นำพระองค์ไปตรึงไว้บนไม้กางเขน
*26:2 ปัสกา เป็นเทศกาลของชาวยิวเพื่อระลึกถึงชนชาติยิวที่ได้รับการปลดปล่อยทาสออกจากประเทศอียิปต์ ฉบับอพยพ บทที่ 12
*26:31 ฉบับเศคาริยาห์ 13:7
*26:41 ฝ่ายเนื้อหนัง ในที่นี้เป็นสิ่งตรงข้ามกับ “ฝ่ายวิญญาณ” คือความต้องการที่มักจะโน้มไปในทางไม่ดีซึ่งมนุษย์ทุกคนมีโดยธรรมชาติ
*26:48 จูบแก้ม เป็นธรรมเนียมการทักทายซึ่งเปรียบเทียบได้กับการไหว้ของคนไทย แต่ในบางครั้งจูบมือแทน
*26:53 เลเกโอน จำนวนกองทัพโรมันหมายถึงจำนวนทหาร 6,000 คน
*27:10 ฉบับเศคาริยาห์ 11:12,13, เยเรมีย์ 19:1-13, 32:6-9