กิจการของอัครทูต 13:1-14:28
1225เมื่อบาร์นาบัสและเซาโลทำหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว จึงได้กลับไปจากเมืองเยรูซาเล็ม และได้พายอห์นที่มีอีกชื่อหนึ่งว่ามาระโกไปด้วย
131ในคริสตจักรเมืองอันทิโอก มีกลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าและพวกอาจารย์ คือบาร์นาบัส สิเมโอนที่มีอีกชื่อหนึ่งว่านิเกอร์ ลูสิอัสชาวเมืองไซรีน มานาเอน (ซึ่งเติบโตคู่มากับเฮโรดผู้ปกครองแคว้น) และเซาโล 2ขณะที่คนเหล่านี้กำลังนมัสการพระผู้เป็นเจ้าและอดอาหารอยู่ พระวิญญาณบริสุทธิ์กล่าวว่า
3หลังจากที่ทั้งกลุ่มอดอาหารและอธิษฐานเสร็จสิ้นแล้ว ก็วางมือบนตัวบาร์นาบัสและเซาโล แล้วจึงให้ทั้งสองเดินทางต่อไป
4พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ดลใจให้ท่านทั้งสองลงไปยังเมืองเซลูเคีย และแล่นเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส 5เมื่อมาถึงเมืองซาลามิส ก็ได้ประกาศคำกล่าวของพระเจ้าตามศาลาที่ประชุมของชาวยิว โดยมียอห์นเป็นผู้ช่วย 6ทั้ง 3 คนเดินทางไปทั่วเกาะจนถึงเมืองปาโฟส และได้พบกับบาร์เยซูชาวยิวผู้ใช้เวทมนตร์คาถา และยังเป็นผู้เผยคำกล่าวเท็จด้วย 7เขาอยู่กับเสอร์จีอัสเปาโลซึ่งเป็นผู้ว่าราชการแคว้นที่ฉลาดรอบรู้ ผู้ว่าราชการจึงให้คนไปตามบาร์นาบัสและเซาโลมาพบ เพราะต้องการจะฟังคำกล่าวของพระเจ้า 8แต่เอลีมาส (ชื่อของบาร์เยซูในภาษากรีก) ผู้ใช้เวทมนตร์คาถาได้คัดค้านบาร์นาบัสและเซาโล โดยพยายามจะหันเหความเชื่อของผู้ว่าราชการแคว้น 9แล้วเซาโลหรือที่มีอีกชื่อหนึ่งว่า เปาโล ซึ่งเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จ้องมาที่เอลีมาสและพูดว่า
ในทันใดนั้นดวงตาของเอลีมาสก็มืดมัวไป จนต้องคลำหาให้คนจูงมือไป 12เมื่อผู้ว่าราชการแคว้นผู้นั้นเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เชื่อ เพราะอัศจรรย์ใจกับการสอนเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า
13เปาโลและเพื่อนร่วมทางแล่นเรือจากเมืองปาโฟสไปยังเมืองเปอร์กา ในแคว้นปัมฟีเลีย ซึ่งเป็นเมืองที่ยอห์นได้แยกจากท่านทั้งสอง เพื่อกลับไปยังเมืองเยรูซาเล็ม 14แล้วเปาโลกับบาร์นาบัสก็เดินทางจากเมืองเปอร์กา ถึงเมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย ในวันสะบาโตก็เข้าไปนั่งในศาลาที่ประชุม 15หลังจากที่ได้อ่านจากหมวดกฎบัญญัติและหมวดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าแล้ว บรรดาผู้อยู่ในระดับปกครองศาลาที่ประชุมได้ใช้ให้คนมาบอกว่า
16เปาโลยืนขึ้นโบกมือและพูดว่า
42ขณะที่เปาโลและบาร์นาบัสกำลังจะไปจากศาลาที่ประชุม ผู้คนก็เชิญให้ท่านทั้งสองพูดถึงสิ่งเหล่านี้ต่ออีกในวันสะบาโตหน้า 43เมื่อการประชุมเลิกแล้ว มีคนจำนวนมาก ทั้งชาวยิวและคนที่เปลี่ยนมาเชื่อในศาสนายิวและเกรงกลัวพระเจ้าก็ติดตามเปาโลและบาร์นาบัสไป ท่านทั้งสองได้สนับสนุนพวกเขาให้พึ่งในพระคุณของพระเจ้าต่อไป
44ครั้นถึงวันสะบาโตหน้า ผู้คนเกือบทั้งเมืองก็มาร่วมกันฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า 45เมื่อชาวยิวเห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากก็เกิดความริษยาขึ้น จึงพูดจาดูแคลนและคัดค้านคำพูดของเปาโล 46เปาโลและบาร์นาบัสก็ตอบคนเหล่านั้นด้วยใจกล้าหาญว่า
48เมื่อบรรดาคนนอกได้ยินดังนั้นก็ชื่นชมยินดี พวกเขาพากันสรรเสริญคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า และทุกคนที่ได้รับเลือกในชีวิตอันเป็นนิรันดร์ก็มีความเชื่อ 49คำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าได้แผ่ขยายไปทั่วเขตแดนนั้น 50แต่ชาวยิวพากันยุยงพวกสตรีสูงศักดิ์ที่เกรงกลัวพระเจ้า รวมทั้งผู้นำชายในเมืองนั้น ให้ข่มเหงและขับไล่เปาโลกับบาร์นาบัสออกไปให้พ้นจากเขตแดนของพวกเขา 51ดังนั้นท่านทั้งสองจึงสลัดฝุ่นออกจากเท้าเพื่อแสดงความผิดของพวกเขา แล้วก็ไปยังเมืองอิโคนียูม 52เหล่าสาวกก็เปี่ยมล้นด้วยความชื่นชมยินดีและด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
141เปาโลและบาร์นาบัสเข้าไปในศาลาที่ประชุมของชาวยิวที่เมืองอิโคนียูมตามปกติ วิธีการพูดของท่านทั้งสองนั้น ทำให้ชาวยิวและชาวกรีกจำนวนมากเกิดความเชื่อ* 2แต่พวกชาวยิวที่ไม่ยอมเชื่อ ก็ก่อกวนให้บรรดาคนนอกไม่พอใจพวกพี่น้อง 3เปาโลและบาร์นาบัสจึงพักอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน และพูดถึงพระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกล้าหาญ พระองค์แสดงให้เห็นชัดถึงพระคุณของพระองค์ โดยให้ท่านทั้งสองกระทำสิ่งอัศจรรย์ ด้วยปรากฏการณ์อัศจรรย์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ 4ผู้คนในเมืองเกิดการแตกแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า บ้างก็เข้าข้างชาวยิว บ้างก็เข้าข้างอัครทูตทั้งสอง 5บรรดาคนนอกและชาวยิวร่วมกับผู้นำของเขาเตรียมที่จะทำร้าย โดยจะเอาก้อนหินขว้างปาอัครทูต 6แต่ท่านทั้งสองทราบเสียก่อน จึงหนีไปที่เมืองลิสตราและเมืองเดอร์บีในแคว้นลิคาโอเนียและแถบใกล้เคียง 7และท่านทั้งสองก็ได้ประกาศข่าวประเสริฐที่นั่นต่อไปอีก
8ที่เมืองลิสตรามีชายเท้าลีบเป็นง่อยเดินไม่ได้มาแต่เกิด 9เขาได้มานั่งฟังเปาโลพูดอยู่ เมื่อจ้องดูชายผู้นั้น เปาโลเห็นว่าเขามีความเชื่อเพียงพอที่จะรับการรักษาให้หายได้ 10จึงร้องขึ้นว่า
ชายง่อยก็กระโดดขึ้นแล้วก็เริ่มเดิน 11เมื่อฝูงชนเห็นสิ่งที่เปาโลกระทำจึงพากันร้องตะโกนเป็นภาษาลิคาโอเนียว่า
12เขาทั้งหลายเรียกบาร์นาบัสว่า เทพเจ้าซุส และเรียกเปาโลว่า เทพเจ้าเฮอร์เมส เพราะว่าท่านเป็นผู้นำในการพูด 13ปุโรหิตประจำวิหารเทพเจ้าซุสที่ตั้งอยู่นอกเมือง ได้ต้อนวัวตัวผู้และมาลัยมาที่ประตูเมืองร่วมกับฝูงชน เพื่อมอบสิ่งนั้นเป็นของสักการะแก่เปาโลและบาร์นาบัส 14แต่เมื่ออัครทูตคือบาร์นาบัสกับเปาโลทราบเรื่อง จึงฉีกเสื้อผ้าของตนแล้ววิ่งออกไปยังฝูงชนตะโกนว่า
18แม้ท่านจะกล่าวเช่นนั้นแล้ว ก็ยังมิอาจห้ามฝูงชนที่เข้ามาสักการะพวกท่านได้
19แล้วก็มีชาวยิวบางคนที่มาจากเมืองอันทิโอกและเมืองอิโคนียูม พวกเขาสามารถชักจูงให้ผู้คนเอาก้อนหินขว้างเปาโล และลากท่านออกไปนอกเมือง เพราะคิดว่าท่านตายแล้ว 20แต่หลังจากที่พวกสาวกได้มาห้อมล้อมท่าน ท่านจึงลุกขึ้นกลับเข้าไปในเมืองได้ และวันรุ่งขึ้นจึงไปยังเมืองเดอร์บีกับบาร์นาบัส
21เปาโลและบาร์นาบัสประกาศข่าวประเสริฐในเมืองนั้น และได้คนจำนวนมากมาเป็นสาวก แล้วท่านทั้งสองก็กลับไปยังเมืองลิสตรา เมืองอิโคนียูม และเมืองอันทิโอก 22เพื่อเสริมกำลังด้านความคิดและให้กำลังใจพวกสาวก ให้คงอยู่ในความเชื่อต่อไป ท่านทั้งสองพูดว่า
23เปาโลและบาร์นาบัสแต่งตั้งบรรดาผู้ปกครองให้พวกเขาในแต่ละคริสตจักร ท่านได้อธิษฐานและอดอาหาร ฝากชีวิตเขาเหล่านั้นไว้กับพระผู้เป็นเจ้าที่เขาเชื่อมั่น 24หลังจากนั้นจึงเดินทางผ่านแคว้นปิสิเดียมายังแคว้นปัมฟีเลีย 25เมื่อได้ประกาศคำกล่าวในเมืองเปอร์กาแล้ว จึงได้ลงไปยังเมืองอัททาลิยา 26อัครทูตทั้งสองแล่นเรือจากเมืองอัททาลิยากลับไปยังเมืองอันทิโอก ซึ่งเป็นเมืองที่ท่านได้รับการฝากฝังไว้ในพระคุณของพระเจ้าให้ทำงาน ซึ่งเวลานั้น ท่านก็ได้กระทำสำเร็จแล้ว 27เมื่อมาถึง ท่านทั้งสองเรียกประชุมคริสตจักร และรายงานถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าได้กระทำผ่านท่าน และพระองค์เปิดโอกาสให้บรรดาคนนอกมีความเชื่อ 28และท่านทั้งสองพักอยู่ที่นั่นกับพวกสาวกเป็นเวลานาน
ทำตามตัวอย่างของพระเจ้า