เมื่อความชั่วร้ายมีอยู่เต็มไปหมดให้ยึดพระเจ้าเพราะพระองค์ทรงยึดเราไว้
คุณเคยปิดสัญญาณเตือนไฟไหม้หรือปุ่มเข็มขัดนิรภัยไหมเพราะว่าคุณไม่ต้องการที่จะได้ยินเสียงที่น่ารำคาญของมัน? การเพิกเชยต่อเสียงเตือนภัยเหล่านี้อาจจะทำให้คุณสูญเสียบ้านหรือชีวิตของคุณก็ได้
แต่การเพิกเชยต่อการเตือนในด้านฝ่ายจิตวิญญาณอาจจะแย่กว่านั้น นี้เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงต้องตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นพิเศษ ยูดาเป็นเสมือนกับสัญญาเตือนที่เราไม่ควรที่จะเมินเฉย
เขาเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าเราควรที่จะยืนยัดเพื่อความจริงและต่อสู้เพื่อความเชื่อ ในขณะที่คุณกำลังอ่าน คุณอาจจะเปิดสลับกันไปมาระหว่างเล่มนี้ กับ 2 เปโตร ให้สังเกตสิ่งที่เหมือนกันจากทั้งสองเล่มนี้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพราะว่าหนังสือทั้งสองเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อที่จะต่อสู้กับคำสอนที่ผิดๆ ภายในคริสตจักร
ในขณะที่คุณได้อ่านถ้อยคำที่น่าคล้อยตามของยูดานี้ ให้จดจ่อที่คำเตือน แต่อย่างไรก็ตามควรที่จะตระหนักถึงสัญญาและคำหนุนใจเพื่อที่จะมีชีวิตแบบคริสเตียนอย่างแท้จริง คุณอาจคิดถึงความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับคำสอนที่ผิดๆ และยูดาอาจจะเป็นหนังสือที่น่าหดหู่ แต่ที่จริงแล้วมันกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม
เขาประทับใจกับความสามารถของพระเจ้าที่ช่วยรักษาให้เราที่จะอยู่ในทางของพระองค์มากกว่าความพยายามของศัตรูที่จะทำให้เราหลงหายไป บทเพลงสรรเสริญเพลงสุดท้ายได้เปล่งความชื่นชมยินดีและความมั่นใจเป็นอย่างมาก “แด่พระองค์ผู้สามารถคุ้มครองรักษาท่านไม่ให้พลาดพลั้ง และให้ท่านยืนจำเพาะพระบารมีของพระองค์โดยปราศจากตำหนิและมีความยินดียิ่งนัก 25 ขอพระบารมี ความยิ่งใหญ่ อานุภาพ และสิทธิอำนาจซึ่งอยู่ก่อนกาลใดๆ ในปัจจุบันกาล และตลอดกาล จงมีแด่พระเจ้าเพียงพระองค์เดียว พระองค์ผู้ช่วยให้รอดพ้นของเราโดยผ่านพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อาเมน” (ข้อ 24-25)
ยูดาเป็นน้องชายของพระเยซูและเป็นน้องชายของยากอบ (เป็นผู้เขียนหนังสือ ยากอบ) เขาคงจะเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นในช่วงระยะเวลาเดียวกันกับที่เปโตรได้เขียนจดหมายฉบับที่สองของเขา ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่าง ปี 60 และ 65 จดหมายทั้งสองฉบับนี้ได้เขียนเพื่อที่จะแก้ไข้ปัญหาที่คล้ายๆ กัน
ยูดานั้นได้มีความกังวลกับคริสเตียนที่อาจจะถูกดึงออกไปจากความจริงโดยเหล่า ธรรมมาจารย์ที่สอนคำสอนผิดๆ เขาเขียนเพื่อที่จะกระตุ้นให้ผู้เชื่อที่จะ “ให้ต่อสู้ด้วยความเชื่อ” (ข้อ 3)
พวกที่ชอบสร้างภาพนั้นได้เริ่มสอนคำสอนที่แตกต่างจากข่าวประเสริฐและได้ก่อให้เกิดความสับสนขึ้นในคริสตจักร พวกเขาสอนว่ามันไม่สำคัญหรอกว่าพวกท่านจะใช้ชีวิตอย่างไรถ้าพวกท่านได้รับความรอดโดยผ่านทางพระคุณแล้ว คุณลองจิตนาการดูว่าสิ่งนี้จะก่อให้เกิดความหายนะมากขนาดไหน! ยูดาต้องการที่จะทำให้มั่นใจว่าไม่มีผู้เชื่อคนไหนที่ติดตามตัวอย่างของคาอิน (ปฐมกาล 4:1-25) บาลาอัม (กันดารวิถี 22:1-24:25 ) หรือโคราห์ (กันดารวิถี16:1-49 )
เมื่ออ่านจดหมายของยูดาแล้วก็เหมือนกับการฟังบทสนทนาทางโทรศัพท์เพียงข้างเดียว ดังนั้น ตัวหนังสือของพระคัมภีร์แบบแสดงผู้พูดทั้งหมดจึงเป็นสีดำ จดหมายได้ถูกพิมพ์ออกมาเป็นตัวหนังสือเขียนลากยาวต่อกัน เพื่อที่จะให้ความรู้สึกเหมือนกับอ่านลายมือของผู้เขียนเอกสารนี้จริงๆ